ลูกติดมือถือ: ผลเสียมากมาย และวิธีการดูแล
ลูกติดมือถือ เพราะเรียนออนไลน์ !?
การใช้โทรศัพท์มือถือเป็นสิ่งที่ไม่แปลกใหม่สำหรับเด็กและเยาวชนในปัจจุบัน แต่การใช้มือถือเป็นเรื่องที่เกิดความกังวลให้กับผู้ปกครองและครูในการศึกษา เนื่องจากการใช้มือถือมากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพทางกายและจิตใจของเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเด็กเริ่มใช้มือถือตั้งแต่อายุน้อย
การเรียนออนไลน์ผ่านมือถือได้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเด็กๆหลายคนในยุคนี้ เช่นเดียวกับการเลี้ยงลูกในยุคนี้ เป็นเรื่องปกติมากๆ ที่เราจะเห็นเด็กๆ เล่นมือถือในขณะทำกิจกรรมต่างๆ ไปด้วย เช่น กินข้าวก็ต้องเล่นมือถือ นอนก็ยังต้องดูมือถืออีก
พ่อแม่บางคนอาจจะคิดว่า การให้ลูกได้เล่น ได้จับ จะทำให้เขาพูดตาม และช่วยให้เขาเก่งขึ้น แต่แท้จริงแล้วการเล่นมือถือนานๆ ส่งผลเสียต่างๆไม่ว่าจะเป็น พัฒนาการช้า โรคสมาธิสั้น สายตาสั้นเทียม เด็กเจ้าอารมณ์ โรคอ้วน
ผลกระทบของการติดมือถือที่ลูก
การติดมือถือในเด็กอาจมีผลกระทบต่อพัฒนาการของลูกได้โดยตรง ดังนั้น ผู้ปกครองควรระมัดระวังในการให้ลูกเล่นมือถืออย่างไม่เหมาะสม โดยสาเหตุที่ทำให้ลูกติดมือถือเกิดขึ้นมีหลายปัจจัย เช่น ความเป็นอยู่ของผู้ปกครองที่ไม่สามารถติดตามลูกได้อย่างเพียงพอ หรือการใช้สมาร์ทโฟนเป็นเครื่องมือในการเลียนแบบพฤติกรรมของเพื่อนร่วมชั้น เป็นต้น
การติดมือถือที่เกิดขึ้นในเด็กอาจมีผลกระทบต่อการพัฒนาสมอง โดยเฉพาะการพัฒนาสมองในส่วนของการสื่อสาร การติดมือถืออาจทำให้เด็กเรียนรู้การสื่อสารผิดพลาด หรือพัฒนาความสามารถในการพูดและการอ่านได้ช้ากว่าเด็กที่ไม่ติดมือถือ นอกจากนี้ การใช้สมาร์ทโฟนในเวลากลางคืนอาจส่งผลต่อการนอนหลับของลูก ซึ่งอาจทำให้เด็กมีปัญหาเรื่องสุขภาพในระยะยาว
นอกจากนี้ การติดมือถือยังส่งผลต่อการพัฒนาสังคมและความสัมพันธ์ของเด็ก การใช้สมาร์ทโฟนอย่างไม่เหมาะสมอาจทำให้เด็กเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยจิตเวช หรือการเกิดอาการซึมเศร้า นอกจากนี้ การใช้สมาร์ทโฟนอย่างไม่เหมาะสมอาจทำให้เด็กเสียเวลาในการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง ทำให้ลูกเสียโอกาสในการพัฒนาทักษะที่จำเป็นในการดำเนินชีวิตในอนาคต
ดังนั้น ผู้ปกครองควรระมัดระวังในการให้ลูกติดมือถืออย่างไม่เหมาะสม และควรเฝ้าดูพฤติกรรมของลูกเพื่อป้องกันผลกระทบที่ตามมา
วิธีการจัดการกับลูกที่ติดมือถือ
สร้างกิจกรรมทางเลือก
การสร้างกิจกรรมทางเลือกสามารถช่วยให้ลูกมีเวลาว่างจากการใช้งานมือถือได้ โดยสามารถสร้างกิจกรรมที่เน้นความสนุกสนานและเรียนรู้ เช่น การเล่นเกมที่มีการแข่งขันกันในครอบครัว การอ่านหนังสือ หรือการทำกิจกรรมฝีมือต่างๆ เป็นต้น
กำหนดเวลาใช้งาน
การกำหนดเวลาใช้งานมือถือสามารถช่วยลดปัญหาการติดมือถือของลูกได้ โดยคุณพ่อแม่สามารถกำหนดเวลาที่ลูกสามารถใช้งานมือถือได้ เช่น กำหนดเวลาใช้งานในช่วงเวลาหลังเลิกเรียน หรือกำหนดเวลาใช้งานในช่วงเวลาก่อนนอน
สื่อสารและเข้าใจ
การสื่อสารและเข้าใจกันระหว่างคุณพ่อแม่กับลูกสามารถช่วยลดปัญหาการติดมือถือของลูกได้ โดยคุณพ่อแม่ควรสื่อสารและเข้าใจความต้องการของลูก เพื่อช่วยให้ลูกมีความสุขและพึงพอใจกับชีวิตที่ไม่ได้ใช้เวลาเพียงแค่เล่นมือถือเท่านั้น
การจัดการกับลูกที่ติดมือถือเป็นเรื่องที่สำคัญในปัจจุบัน คุณพ่อแม่สามารถใช้วิธีการสร้างกิจกรรมทางเลือก เป็นต้น เพื่อช่วยลดปัญหาการติดมือถือของลูกให้เกิดขึ้นน้อยลง นอกจากนี้ คุณพ่อแม่ยังสามารถกำหนดเวลาใช้งาน และสื่อสารและเข้าใจกันให้ดี เพื่อช่วยลดปัญหาการติดมือถือของลูกได้อีกด้วย