คันช่องคลอด: สาเหตุ อาการ และวิธีการรักษา
การมีอาการ คันในช่องคลอด เป็นอาการที่ผู้หญิงส่วนใหญ่เคยพบเจอมาก่อน อาการคันช่องคลอดนั้นเกิดจากสาเหตุหลายประการ เช่น การสวมใส่ชุดชั้นในที่ไม่เหมาะสม การติด เชื้อราในช่องคลอด หรือการเป็นโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ หรือเป็นเพราะความแพ้ที่ผิดปกติของผิวหนัง โดยทั่วไปแล้ว อาการคันในช่องคลอดนั้นสามารถรักษาได้ด้วยวิธีการง่ายๆ
อย่างไรก็ตาม หากมีอาการคันในช่องคลอดเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานาน หรือมีอาการอื่นๆที่รุนแรงขึ้น เช่น มีการตกขาวมาก หรือมีก้อนเนื้อผิวหนังขึ้นมาในช่องคลอด ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาอย่างถูกต้อง ในบางกรณี การมีอาการคันในช่องคลอดอาจเป็นอาการของโรคร้ายแรง เช่น มะเร็งช่องคลอด ซึ่งต้องรักษาโดยแพทย์ทันทีเพื่อป้องกันการเป็นโรคในระยะยาว
คันช่องคลอด ฉี่บ่อย
คันช่องคลอด ฉี่บ่อยเป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้หญิง โดยมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อและการเปลี่ยนแปลงในระบบฮอร์โมน โดยที่อาการที่พบมักจะเกี่ยวข้องกับการอักเสบของช่องคลอด ซึ่งจะทำให้เกิดความรุนแรงของอาการคัน และเกิดอาการฉี่บ่อย
สาเหตุของคันช่องคลอด ฉี่บ่อยสามารถมาจากการติดเชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรีย ที่อาจเกิดขึ้นได้จากการใช้สบู่หรือผ้าอนามัยที่ไม่สะอาด การใช้ชุดชั้นในที่ไม่เหมาะสม หรือการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่สะอาด
คันช่องคลอด หายเองได้ไหม
คันช่องคลอด บางชนิดเป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้หญิงทุกช่วงวัย บางครั้งอาจจะไม่จำเป็นต้องรักษาด้วยยาหรือการแพทย์ใดๆ อย่างไรก็ตาม ข้อแนะนำของเราก็คือควรรักษาอาการคันช่องคลอดให้หาย เพราะอาจทำให้เกิดความรำคาญและไม่สบายใจได้ สามารถส่งผลต่อสภาพจิตใจให้ย่ำแย่ลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ หากอาการคันช่องคลอดยังไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาเพิ่มเติม โดยอาจรับการรักษาด้วยยาหรือการแพทย์อื่นๆ ที่เหมาะสมกับสาเหตุของอาการคันช่องคลอด
คันช่องคลอด ไม่มีตกขาว
การมีคันบริเวณช่องคลอดไม่ได้หมายความว่าจะมีอาการตกขาวเสมอไปด้วย คนที่มีอาการคันช่องคลอดแต่ไม่มีตกขาวอาจไม่ต้องมีความกังวลมากเกินไป แต่หากมีอาการคันร่วมกับการมีตกขาว อาจจะเป็นสัญญาณของภาวะประสาทหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือการติดเชื้อช่องคลอด เช่น เชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อรา จึงจำเป็นต้องไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง
การวินิจฉัยและการรักษา
เพื่อวินิจฉัยสาเหตุของคันช่องคลอด แพทย์อาจจะต้องทำการตรวจร่างกาย และเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจวินิจฉัย และหาสาเหตุของอาการคันช่องคลอด ในกรณีที่เป็นการติดเชื้อ เช่น เชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อรา แพทย์จะสั่งให้ใช้ยาปฏิชีวนะ เช่น ยาป้องกันการติดเชื้อ หรือยาปฏิชีวนะเพื่อกำจัดเชื้อ
สำหรับการรักษาคันช่องคลอด แพทย์อาจจะแนะนำให้ผู้ป่วยเปลี่ยนชุดชั้นในเป็นชุดที่ระบายอากาศได้ดี หรือใช้ผ้าอนามัยสำหรับผู้ที่มีอาการแพ้สิ่งต่าง ๆ และหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับช่องคลอด
อย่างไรก็ตาม หากมีอาการคันช่องคลอดเกิดขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาอย่างถูกต้อง
การป้องกันและข้อแนะนำ
การป้องกันคันช่องคลอดเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เนื่องจากคันช่องคลอดมักเกิดขึ้นเนื่องจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ เราจึงมีข้อเสนอแนะนำมาแนะนำดังต่อไปนี้
- รักษาความสะอาดของช่องคลอดด้วยการอาบน้ำสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
- ไม่ใช้ผ้าขี้ริ้วหรือผ้าที่ไม่สะอาด
- ไม่ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มหรือน้ำยาชำระ
- ไม่ใช้กระดาษชำระหรือเช็ดตัว
- ควรใช้ผ้าอนามัยที่สะอาดและเปลี่ยนโดยสม่ำเสมอ เพื่อลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราภายในช่องคลอด
- หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าอนามัยที่มีส่วนผสมของสารเคมีหรือน้ำหอม เนื่องจากอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและคันช่องคลอดได้
- ควรเลือกใช้ชุดชั้นในที่ทำจากผ้าที่ระบายอากาศได้ดีและไม่อับชื้น เพื่อลดความชื้นภายในช่องคลอดที่เป็นสิ่งที่ช่วยสร้างสภาพเหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา
- หลีกเลี่ยงการใช้สบู่หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของสารเคมีหรือน้ำหอม เนื่องจากอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและคันช่องคลอดได้
- หากมีอาการคันช่องคลอด ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม
นอกจากนี้ หากมีอาการคันช่องคลอด ควรหลีกเลี่ยงการฉี่บ่อยๆ เนื่องจากอาจทำให้เกิดเชื้อแบคทีเรียภายในช่องคลอดได้ และควรรักษาอาการตกขาวอย่างเหมาะสมเพื่อลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราภายในช่องคลอดได้