เลือกคาร์ซีท เลือกความปลอดภัยสูงสุดให้ลูก

ในพื้นที่ข่าวหลายครั้ง เราได้เห็นประโยชน์ของ คาร์ซีท (car seat) หรือ เบาะนั่งนิรภัยเด็ก ที่เวลาเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์
ภายในรถมีเด็กแล้วนั่งอยู่ในคาร์ซีท (car seat) ผลปรากฎว่า...
เด็กปลอดภัย
เกิดความบาดเจ็บทางร่างกายไม่มาก
นั้นเพราะ คาร์ซีท (car seat) มีระบบยึดเหนี่ยวเด็กในรถ มีระบบรองรับลดแรงกระแทก
เป็นการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อปกป้องเด็กจากการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตระหว่างรถชน
เด็กไม่นั่งคาร์ซีท (car seat) แม่อุ้มลูกไว้บนตัก เวลาเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันแรงๆ เด็กที่นั่งอยู่บนตักแม่จะกระเด็นออกจากตักกระแทกกับตัวรถ หรือขั้นรุนแรงกระเด็นออกนอกรถ
การใช้คาร์ซีท (car seat) จึงมีความจำเป็นมากค่ะ เพราะช่วยลดการเกิดอันตรายให้เบาลง หรือถ้าเป็นอุบัติเหตุไม่ร้ายแรงลูกก็อาจไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย
การซื้อคาร์ซีท (car seat) จึงไม่ใช้การใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ไม่ใช่ออฟชั่นของเห่อลูก แต่เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยปกป้องลูก เพราะคุณไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ในช่วงแรกเกิด จนถึง 5 ขวบ จะไม่พาลูกออกเดินทางด้วยรถยนต์ไปไหนมาไหน
แม้เราจะขับรถอย่างระมัดระวัง แต่เราไม่อาจรู้ได้ว่า ผู้ขับขี่รถยนต์คันอื่นๆ รอบตัวเราจะระแวดระวังไหม ขึ้นชื่อว่าอุบัติเหตุเราไม่สามารถคาดการณ์ได้เลย
เมื่อคาร์ซีท (car seat) สามารถเป็นตัวช่วยในการดูแลปกป้องลูกรักได้ ทำไมคุณพ่อคุณแม่จะไม่กล้าลงทุนซื้อประกันความปลอดภัยให้ลูก
แล้วเมื่อตัดสินใจจะซื้อคาร์ซีท (car seat) แบบไหนที่ดี ที่จะสามารถปกป้องอันตรายให้ลูกได้
1.คาร์ซีท (car seat) มีหลายขนาด หลายแบบ มีความแตกต่างกันไปตามน้ำหนักหรือส่วนสูงของตัวเด็ก (ไม่ใช่อายุของเด็ก)
เช่น คาร์ซีท (car seat) สำหรับเด็กแรกเกิด รองรับน้ำหนักตั้งแต่ ประมาณ 2.5 -10 กก. ขึ้นไป มีรูปทรงภายในพอดีกับสรีระของเด็กแรกเกิดโดยเฉพาะ
จนถึงคาร์ซีท (car seat) บางยี่ห้อมีการออกแบบมาเพื่อให้ใช้ได้ในระยะยาวตั้งแต่แรกเกิด ถึง 7 ปี ถ้าราคาอยู่ในงบประมาณที่รับได้ ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ จะได้ไม่เปลี่ยนรุ่นบ่อยๆ
แต่อย่างไรก็ตาม วิธีเลือกคาร์ซีท (car seat) ที่เหมาะสมและถูกต้อง คือ เลือกตามน้ำหนักตัว และไม่ควรซื้อคาร์ซีท (car seat) ที่มีเบาะนั่งขนาดใหญ่เกินตัวของเด็ก เบาะนั่งเด็กที่จะมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย ต้องมีขนาดพอเหมาะกับตัวเด็ก รองรับสรีระเด็กเท่านั้น
2.สายรัด หรือ สายเข็มขัดนิรภัย ต้องสามารถดึงออกมาได้จนสุด แล้วเสียบในตัวล็อกอย่างพอดี ล็อกได้แน่นหนา เพื่อให้คาร์ซีทแนบสนิทกับเบาะรถ สายรัดควรมีอย่างน้อย 3 จุดขึ้นไป
3.นอกจากโครงสร้างที่มาตรฐานแล้ว ควรคำนึงถึงการใช้งานจริง สะดวกและง่ายในการติดตั้ง เพราะต่อให้เราเลือกรุ่นราคาสูง คุณภาพเป็นเลิศ แต่ติดตั้งยุ่งยาก จนไม่ถูกต้อง ลงล็อก 100 % ก็ทำให้สมรรถนะความปลอดภัยของคาร์ซีทลดลง
4.เบาะนั่งปรับเอนนั่ง-นอนได้ สามารถรองรับแรงกระชาก ด้านข้างป้องกันการกระแทกได้ดี มีเบาะรองคอ (Head Support) ได้ยิ่งดี เพราะช่วยโอบอุ้มศีรษะเด็กที่คอยังอ่อนได้ดี
ถึงแม้ว่าคาร์ซีท (car seat) ส่วนมากจะมีราคาค่อนข้างสูง แต่เมื่อนำมาเทียบกับความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้นั้นถือว่าคุ้มค่ามากค่ะ