POST

การนอนเป็นเรื่องของการพักผ่อนสมอง ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อน

การนอนเป็นเรื่องของการพักผ่อนสมอง ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อน สร้างภูมิต้านทานโรค นอนแล้วทำให้ตื่นมาสดชื่น อารมณ์ดี คิดอ่านอะไรก็ได้ดีขึ้น จดจำสิ่งต่างๆ ที่เรียนรู้หรือที่ผ่านมาได้แม่นยำค่ะ

เด็กในแต่ละช่วงวัย มีการนอนที่แตกต่างกันอย่างไร?
・วัยเด็กแรกเกิด - 6 เดือน
วัยนี้จะมีภาวะหลับตื่นสลับกันไปตลอดทั้งวัน ควรนอนประมาณ 14-18 ชั่วโมงต่อวัน แต่เมื่ออายุได้ประมาณ 4 เดือนจะเริ่มหลับกลางคืนได้ยาวประมาณ 9-12 ชั่วโมง

・วัย 6 - 12 เดือน
เมื่ออายุ 6 เดือนจะนอนประมาณ 14 ชั่วโมงต่อวัน แต่ก็ยังสามารถตื่นได้ในระหว่างการนอนหลับ ซึ่งทารกบางคนสามารถกลับไปหลับต่อได้ด้วยตัวเอง แต่บางคนต้องการการกล่อมจึงจะหลับต่อได้

・วัย 1 – 3 ปี
วัยนี้เป็นวัยที่เริ่มหัดเดินแล้ว ซึ่งควรนอนประมาณ 12-14 ชั่วโมงต่อวัน สำหรับเด็กบางคนอาจจะยังอยากงีบ 2 ครั้งแต่การงีบดังกล่าว ก็ไม่ควรใกล้เวลานอนมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้เด็กนอนหลับได้ยากขึ้นด้วย

・วัย 3 – 5 ปี
เด็กในวัยนี้จะนอนตอนกลางคืนประมาณ 11-12 ชั่วโมงรวมการนอนกลางวันแล้ว และจะเลิกนอนกลางวันตอนอายุ 5 ขวบ

・วัย 5 – 12 ปี
สำหรับเด็กวัยกำลังเรียนจะนอนประมาณ 10-11 ชั่วโมงต่อคืน และในเด็ก 5 ขวบบางคนยังอาจจะต้องมีการนอนกลางวันบ้าง และถ้าการไม่สามารถงีบระหว่างวันได้ เด็กๆ อาจจะต้องเข้านอนเร็วขึ้น

・วัยรุ่น 12 - 19 ปี
วัยนี้ต้องการเวลานอน 8 -10 ชั่วโมง แต่ลักษณะการนอนของเด็กวัยนี้จะเปลี่ยนไปจากวัยเรียน โดยที่วัยรุ่นจะเข้านอนดึกและตื่นสายซึ่งเป็นภาวะปกติเมื่อเด็กเข้าสู่วัยรุ่น ดังนั้นในช่วงเปิดเทอมที่วัยรุ่นต้องมาโรงเรียนในตอนเช้าจะมีผลทำให้วัยรุ่นนอนไม่พอได้บ่อย และอาจกระทบต่อการเรียนของเขา และวัยรุ่นมักจะมานอนชดเชยในวันหยุด

สิ่งที่ควรทำ และ ไม่ควรทำ ในการสอนลูกให้มีนิสัยการนอนที่ดี

ควรทำ
1. สร้างกิจวัตรก่อนนอนให้เป็นเวลาพิเศษที่จะพูดคุยกับลูก เพื่อให้ลูกรู้สึกผ่อนคลายและปลอดภัย
2. ให้ลูกเข้านอนและตื่นนอนตรงเวลา
3. บรรยากาศห้องนอน สำหรับเด็กเล็กสามารถใช้เสียงที่เป็นจังหวะสม่ำเสมอไม่ดัง ไม่กระตุ้น เป็นเสียงที่ช่วยกล่อมให้เด็กนอน
4. สร้างกิจวัตรในระหว่างวันให้มีตารางเวลาสม่ำเสมอ เข้านอนให้ตรงเวลา
5. ควรปิดไฟ หรือ หรี่แสงไฟในห้องนอน เมื่อถึงเวลานอนและควรให้เด็กได้เจอแสงแดดธรรมชาติในเวลากลางวัน

ไม่ควรทำ
1. หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่เร้าความตื่นเต้น หรือ กิจกรรมที่ต้องเผชิญกับแสงที่จ้ามากเกินในช่วงเวลา 2 - 3 ชั่วโมงก่อนนอน
2. ในทารกควรเลี่ยงการให้เด็กหลับคาขวดนม
3. อย่าให้การนอนเกิดจากการขู่ หรือ เป็นการลงโทษจากการทำความผิด ควรทำให้เด็กรู้สึกว่าการนอนเป็นช่วงเวลาของความสุข
4. หลีกเลี่ยงการให้เด็กเล่นเมื่อถึงเวลานอน
5. หลีกเลี่ยงอาหารหนัก หรือ ชา กาแฟ น้ำอัดลมที่มีคาเฟอีนเป็นส่วนประกอบ

คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญในเรื่องการนอนของลูกๆ และควรสนับสนุนให้ลูกๆ นอนอย่างเพียงพอกันด้วยนะคะ
การนอนเป็นเรื่องของการพักผ่อนสมอง ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อน สร้างภูมิต้านทานโรค นอนแล้วทำให้ตื่การนอนเป็นเรื่องของการพักผ่อนสมอง ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อน สร้างภูมิต้านทานโรค นอนแล้วทำให้ตื่

Please login to comment. Login

Please login to comment.
Login