Topic วันนี้!
"ป้องกันลูกน้อยให้ปลอดภัยกับโรคในฤดูฝน"
เด็กๆ หลายคนก็เริ่มเปิดเทอมไปโรงเรียนกันแล้ว นอกจากที่ลูกน้อยของเราจะต้องเผชิญกับโรคโควิด 19 แล้ว ช่วงนี้ก็เริ่มมีฝนตกอีกด้วย คุณพ่อคุณแม่คงอดห่วงไม่ได้กับโรคที่จะเกิดขึ้นตามมาในฤดูฝนถูกไหมคะ
หากฝนตกลงมาพอดีในวันที่ลูกน้อยไปโรงเรียน นอกจากจะเลอะเทอะเฉอะแฉะแล้ว อาจทำให้ลูกป่วย หรือไม่สบายได้ และสภาพอากาศอย่างนี้ ทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดีเลยค่ะ
เรามาทำความรู้จักกับโรคติดเชื้อที่พบบ่อยในเด็ก มักจะติดต่อกันมาจากที่โรงเรียนและมักพบในฤดูฝน คือ
1. ไข้หวัดใหญ่
เป็นโรคที่พบได้ตลอดทั้งปีและพบได้บ่อยในช่วงฤดูฝน ติดต่อได้ทางการหายใจ เมื่อไอหรือจาม ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ปวดหัว อ่อนเพลีย และปวดเมื่อยตามร่างกาย คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ หรือจามร่วมด้วย
วิธีป้องกัน
・รักษาสุขภาพให้แข็งแรง และควรพักผ่อนให้เพียงพอ
・หลีกเลี่ยงไม่ใกล้ชิดผู้ป่วย หรือไม่อยู่ในสถานที่คนหนาแน่น
・ถ้ารู้ว่าเป็นไข้หวัดใหญ่แล้วควรหยุดพักรักษาตัว ไม่ควรให้ลูกไปโรงเรียน
・ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำหรือเจลแอลกอฮอล์
・รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี
2. มือ เท้า ปาก
เป็นโรคที่พบได้บ่อยในช่วงฤดูฝนเหมือนกันค่ะ ติดต่อได้จากการสัมผัสโดยตรงกับน้ำมูก น้ำลาย ผื่น ตุ่มน้ำใส อุจจาระ หรือ สัมผัสทางอ้อม เช่น ผ่านของเล่น มือผู้เลี้ยงดู ผู้ป่วยจะมีไข้ เจ็บปาก มีแผล ตุ่มในช่องปาก กระพุ้งแก้ม ผื่นแดงหรือตุ่มโดยเฉพาะบริเวณฝ่ามือฝ่าเท้า
วิธีการป้องกัน
・หากลูกป่วยไม่ควรให้ใกล้ชิดคนที่ไม่ป่วย และให้หยุดเรียนจนกว่าจะหายป่วย
・ล้างมือบ่อยๆ และรีบล้างมือให้สะอาดโดยเร็วหลังจากที่เช็ดน้ำมูก น้ำลาย เปลี่ยนผ้าอ้อมหรือเสื้อผ้าที่เปื้อนอุจจาระ
・ฝึกให้ลูกมีนิสัย กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือก่อนทานอาหาร
・หมั่นทำความสะอาดของเล่น เครื่องใช้ที่อาจปนเปื้อนเชื้อโรคอย่างสม่ำเสมอ
3. ไข้เลือดออก
เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค ยุงเหล่านี้มักเพาะพันะ์ตามแหล่งน้ำขังและจะพบมากในฤดูฝนค่ะ ผู้ป่วยจะมีไข้สูง หน้าแดง ปวดกล้ามเนื้อ บางคนอาจปวดท้อง อาเจียน
วิธีป้องกัน
・ป้องกันไม่ให้ยุงกัดโดยสวมเสื้อและกางเกงขายาว ฉีดสเปรย์กันยุงหรือทายากันยุงเมื่อออกนอกบ้าน
・ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายทั้งในบ้านและบริเวณรอบๆ เช่น เก็บบ้านให้ปลอดโปร่ง กำจัดภาชนะที่มีน้ำขัง ปิดฝาโอ่งให้มิดชิด เปลี่ยนถ่ายน้ำทุกสัปดาห์ไม่ให้ยุงลายวางไข่
คุณพ่อคุณแม่ยังสามมารถเตรียมความพร้อมให้ลูกไม่ป่วยในหน้าฝนได้ โดยการ
1. สวมหมวก ทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน แม้ว่าอากาศจะแจ่มใส เลือกให้ใส่สบาย ใช้ได้ทั้งฤดูร้อนและฝน
2. พกร่ม เลือกรูปแบบที่มีสีสัน ลายน่ารัก เพื่อให้ลูกชอบ และควรเลือกให้พกพาได้สะดวก หรือร่มที่ใช้ได้ทั้งฤดูร้อนและฝน
3. ชุดกันฝน ควรมีติดกระเป๋าลูกเพื่อเอาไว้ใช้ยามจำเป็น เลือกตามความสะดวกในการใช้งาน
4. ผ้าเช็ดหน้า ใช้ทำได้หลายอย่าง เช่น กันแดด ห่อสิ่งของเล็กๆ หรือปกป้องสิ่งสกปรก เชื้อโรคเมื่อเวลาไอ จาม
5. ถุงพลาสติก พกติดตัวช่วยป้องกันน้ำฝนไม่ให้ของใช้ของลูกเสียหาย หรือสามารถใช้สวมเป็นหมวกกันฝนได้
"ป้องกันลูกน้อยให้ปลอดภัยกับโรคในฤดูฝน"
เด็กๆ หลายคนก็เริ่มเปิดเทอมไปโรงเรียนกันแล้ว นอกจากที่ลูกน้อยของเราจะต้องเผชิญกับโรคโควิด 19 แล้ว ช่วงนี้ก็เริ่มมีฝนตกอีกด้วย คุณพ่อคุณแม่คงอดห่วงไม่ได้กับโรคที่จะเกิดขึ้นตามมาในฤดูฝนถูกไหมคะ
หากฝนตกลงมาพอดีในวันที่ลูกน้อยไปโรงเรียน นอกจากจะเลอะเทอะเฉอะแฉะแล้ว อาจทำให้ลูกป่วย หรือไม่สบายได้ และสภาพอากาศอย่างนี้ ทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดีเลยค่ะ
เรามาทำความรู้จักกับโรคติดเชื้อที่พบบ่อยในเด็ก มักจะติดต่อกันมาจากที่โรงเรียนและมักพบในฤดูฝน คือ
1. ไข้หวัดใหญ่
เป็นโรคที่พบได้ตลอดทั้งปีและพบได้บ่อยในช่วงฤดูฝน ติดต่อได้ทางการหายใจ เมื่อไอหรือจาม ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ปวดหัว อ่อนเพลีย และปวดเมื่อยตามร่างกาย คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ หรือจามร่วมด้วย
วิธีป้องกัน
・รักษาสุขภาพให้แข็งแรง และควรพักผ่อนให้เพียงพอ
・หลีกเลี่ยงไม่ใกล้ชิดผู้ป่วย หรือไม่อยู่ในสถานที่คนหนาแน่น
・ถ้ารู้ว่าเป็นไข้หวัดใหญ่แล้วควรหยุดพักรักษาตัว ไม่ควรให้ลูกไปโรงเรียน
・ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำหรือเจลแอลกอฮอล์
・รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี
2. มือ เท้า ปาก
เป็นโรคที่พบได้บ่อยในช่วงฤดูฝนเหมือนกันค่ะ ติดต่อได้จากการสัมผัสโดยตรงกับน้ำมูก น้ำลาย ผื่น ตุ่มน้ำใส อุจจาระ หรือ สัมผัสทางอ้อม เช่น ผ่านของเล่น มือผู้เลี้ยงดู ผู้ป่วยจะมีไข้ เจ็บปาก มีแผล ตุ่มในช่องปาก กระพุ้งแก้ม ผื่นแดงหรือตุ่มโดยเฉพาะบริเวณฝ่ามือฝ่าเท้า
วิธีการป้องกัน
・หากลูกป่วยไม่ควรให้ใกล้ชิดคนที่ไม่ป่วย และให้หยุดเรียนจนกว่าจะหายป่วย
・ล้างมือบ่อยๆ และรีบล้างมือให้สะอาดโดยเร็วหลังจากที่เช็ดน้ำมูก น้ำลาย เปลี่ยนผ้าอ้อมหรือเสื้อผ้าที่เปื้อนอุจจาระ
・ฝึกให้ลูกมีนิสัย กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือก่อนทานอาหาร
・หมั่นทำความสะอาดของเล่น เครื่องใช้ที่อาจปนเปื้อนเชื้อโรคอย่างสม่ำเสมอ
3. ไข้เลือดออก
เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค ยุงเหล่านี้มักเพาะพันะ์ตามแหล่งน้ำขังและจะพบมากในฤดูฝนค่ะ ผู้ป่วยจะมีไข้สูง หน้าแดง ปวดกล้ามเนื้อ บางคนอาจปวดท้อง อาเจียน
วิธีป้องกัน
・ป้องกันไม่ให้ยุงกัดโดยสวมเสื้อและกางเกงขายาว ฉีดสเปรย์กันยุงหรือทายากันยุงเมื่อออกนอกบ้าน
・ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายทั้งในบ้านและบริเวณรอบๆ เช่น เก็บบ้านให้ปลอดโปร่ง กำจัดภาชนะที่มีน้ำขัง ปิดฝาโอ่งให้มิดชิด เปลี่ยนถ่ายน้ำทุกสัปดาห์ไม่ให้ยุงลายวางไข่
คุณพ่อคุณแม่ยังสามมารถเตรียมความพร้อมให้ลูกไม่ป่วยในหน้าฝนได้ โดยการ
1. สวมหมวก ทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน แม้ว่าอากาศจะแจ่มใส เลือกให้ใส่สบาย ใช้ได้ทั้งฤดูร้อนและฝน
2. พกร่ม เลือกรูปแบบที่มีสีสัน ลายน่ารัก เพื่อให้ลูกชอบ และควรเลือกให้พกพาได้สะดวก หรือร่มที่ใช้ได้ทั้งฤดูร้อนและฝน
3. ชุดกันฝน ควรมีติดกระเป๋าลูกเพื่อเอาไว้ใช้ยามจำเป็น เลือกตามความสะดวกในการใช้งาน
4. ผ้าเช็ดหน้า ใช้ทำได้หลายอย่าง เช่น กันแดด ห่อสิ่งของเล็กๆ หรือปกป้องสิ่งสกปรก เชื้อโรคเมื่อเวลาไอ จาม
5. ถุงพลาสติก พกติดตัวช่วยป้องกันน้ำฝนไม่ให้ของใช้ของลูกเสียหาย หรือสามารถใช้สวมเป็นหมวกกันฝนได้