ตั้งไข่: ฝึกลูกตั้งไข่คืออะไร? มีผลต่อการพัฒนาสมองจริงไหม?!
ฝึกลูกตั้งไข่คืออะไร? มีผลต่อการพัฒนาสมองจริงไหม?!
เมื่อลูกน้อยสุดที่รักของคุณหัดคลานได้คล่องแล้ว หลังจากนั้นพัฒนาการต่อมาเมื่อเข้าสู่ช่วงวัย 8-12 เดือน คุณพ่อคุณแม่จะเห็นได้ชัดเลยว่าลูกของคุณเริ่มที่จะ "เดิน" ซึ่งก็มีสัญญาณบ่งบอกให้คุณพ่อคุณแม่อย่างเราๆ ได้ทราบนั้นก็คือ "การตั้งไข่" แล้วเมื่อลูกน้อยเข้าสู่วัยหัดเดิน คุณพ่อคุณแม่จะต้องเตรียมตัว เตรียมใจอะไรบ้าง? มาเตรียมไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ
ตั้งไข่ คืออะไร?
การตั้งไข่ คือ การที่ลูกเริ่มทำท่าโก่งโค้งยืดตัวขึ้นยืน และเมื่อทำได้สักพักก็จะเข้าไปหาที่เกาะเพื่อยืนต่อไป ซึ่งเป็นเพราะลูกน้อยยังยืนเองตามลำพังไม่ได้ โดยส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในช่วงวัย 8 - 9 เดือนค่ะ เป็นสิ่งดีนะคะ เพราะการที่เด็กได้ลองทำการยืนด้วยตนเอง จะทำให้เขาได้เรียนรู้และลองซ้ำแล้วลองอีก จนกว่าจะรู้วิธีการที่จะลุกขึ้นมาเดินจากท่านั่งเป็นท่าเกาะยืน และเริ่มตั้งไข่ ซึ่งเป็นการเตรียมพร้อมในการเดินของลูกน้อยค่ะ
เตรียมความพร้อมก่อนที่จะสอน "ลูกตั้งไข่"
1. จัดเตรียมพื้นที่และสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม
ลูกๆ จะมีพัฒนาการช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับความพร้อมที่เกิดจากตัวเด็กเองและสภาพแวดล้อมภายนอก ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างสภาพแวดล้อมภายนอกที่อยู่ในบ้านให้เหมาะสมกับการหัดคลาน หัดยืน หัดตั้งไข่ และหัดเดิน โดยอาจจะมีคอกกั้นเด็กที่เป็นแบบซี่ๆ หรือโซฟาที่เด็กสามารถพยุงตัวเองขึ้นเพื่อเกาะยืน เกาะเดิน หรือไต่ไปรอบๆ โดยที่ล้มแล้วจะไม่เจ็บ หรือคลานเล่นอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัยได้ เพื่อเป็นการฝึกให้ลูกได้ลองผิดลองถูกด้วยตัวเขาเอง ซึ่งจะทำให้เด็กมีพัฒนาการที่เร็วขึ้น
2. ไม่ควรใช้รถหัดเดิน (Baby Walker) หรือจั้มเปอร์ (Baby Jumper)
การใช้รถหัดเดินหรือจั๊มเปอร์ ไม่ได้ช่วยให้ลูกน้อยหัดเดินได้เร็วขึ้นแล้ว และยังเป็นการฝึกให้เด็กทรงตัวอย่างผิดวิธี โดยผลงานวิจัยที่ประเทศสิงค์โป พบว่า "เด็กที่ใช้รถหัดเดินเป็นประจำจะส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวช้ากว่าเด็กที่ไม่ได้ใช้รถหัดเดิน ถึง 4 - 6 สัปดาห์" และท่าเดินแบบใช้ปลายเท้าจิก ใช้ตัวไถไปข้างหน้า ยังเป็นท่าทางที่ผิดธรรมชาติของการเดินอีกด้วย รถหัดเดินจึงถูกระบุว่าเป็นของเล่นที่เป็นอันตรายต่อเด็กมากที่สุด! อีกด้วย
3. ไม่ใส่รองเท้า เดินด้วยเท้าเปล่า
วิธีที่ดีที่สุดในการหัดตั้งไข่ คือ ให้ลูกน้อยยืนด้วยเท้าเปล่าของตัวเอง เพื่อที่เท้าของลูกจะได้สัมผัสกับพื้นผิวที่แตกต่างกัน เช่น พื้นหญ้า พื้นปูน พื้นทราย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัสของลูกน้อยทำให้เกิดพัฒนาการ และการเรียนรู้ อีกทั้งลูกจะรู้จักวิธีการวางเท้าเพื่อทรงตัวให้พื้นผิวต่างๆ และกล้าที่จะอยากสำรวจพื้นที่อื่นๆ
4. ให้ลูกน้อยได้หัดเดินด้วยตัวเอง
ให้ลูกน้อยได้มีโอกาสในการหัดตั้งไข่ไปจนถึงการเดินด้วยตัวเอง เพราะจะทำให้ลูกกล้าที่จะทำให้สิ่งที่ไม่เคยทำ แต่คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถกระตุ้นให้ลูกมีพัฒนาการที่เร็วขึ้นได้ ด้วยการเป็นกำลังใจ พยายามเข้าหาไปอยู่ใกล้ๆ เวลาที่ลูกกำลังฝึกตั้งไข่หรือเดิน และที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ไม่ควรไปบังคับให้ลูกเดินนะคะ เพราะลูกน้อยอาจจะยังไม่พร้อมที่จะเดินได้ค่ะ
จะฝึก "ลูกตั้งไข่" อย่างไรให้ปลอดภัย?
คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยลูกโดยเริ่มจากการ หัดหย่อนก้นลงนั่งจากท่ายืน ด้วยการก้มตัวลง ก็คืองอส่วนลำตัวด้านบนกับสะโพกค่ะ โน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย และวางน้ำหนักไปทางก้น เพื่อที่จะได้นั่งลงได้ ต้องทำโดยไม่หงายหลังหรือเจ็บตัว
ซึ่งการที่ลูกได้เห็นคุณพ่อคุณแม่หรือคนใกล้ตัวเดินไปไหนมาไหนก็เป็นเหมือนแรงขับเคลื่อนที่ทำให้ลูกน้อยพยายามจะก้าวผ่านพัฒนาการจากการคลานไปสู่การยืน และเดินได้ต่อไปนั่นเองค่ะ
ฝึก "ลูกตั้งไข่" มีผลต่อพัฒนาการจริงไหม!?
การฝึกลูกตั้งไข่ ยังมีส่วนสำคัญต่อพัฒนาการทางสมองของลูกน้อย เมื่อลูกสามารถทรงตัวได้ดีจะส่งผลถึงสมองของลูก ในส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนไหวก็จะทำงานได้ดี และมีพัฒนาการด้านร่างกายที่ดีด้วย มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง มีการประมวลผลการรับรู้ของสมองได้ดี
แต่หากลูกน้อยมีการทรงตัวที่ไม่ดี จะส่งผลต่อการมีสมาธิ สายตาจะไม่เพ่งมองหาโฟกัสสิ่งต่างๆ รอบตัว การทรงตัวจึงมีความสำคัญต่อทารกมากตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยหัดเดินค่ะ
เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องไม่มองข้ามความปลอดภัยของเจ้าตัวเล็กนะคะ จะต้องคอยอยู่ใกล้ๆ ดูแลแบบไม่ให้คลาดสายตา รวมถึงจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อ "การตั้งไข่" ของลูกเพราะเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เพื่อลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ
อ้างอิง : เว็บไวต์ JOHNSON'S