Mombiestreet
Mombiestreet
@mombiestreet

โรคร้าย! ในเด็กวัยทารกแรกเกิด

โรคร้าย! ในเด็กวัยทารกแรกเกิด
โรคร้าย! ในเด็กวัยทารกแรกเกิด

เด็กๆ วัยทารกแรกเกิดนั้น มีโรคและอาการที่เกิดแตกต่างจากผู้ใหญ่อย่างเราๆ เพราะอวัยวะภายในร่างกายของเด็กยังต้องเจริญเติบโตตามช่วงวัยเรื่อยๆ ภูมิคุ้มกันโรคนั้นก็มีต่ำกว่า และมักจะมีอาการที่รุนแรงกว่าผู้ใหญ่อีกด้วย ซึ่งถ้าได้รับความเจ็บป่วยและไม่ได้รับการรักษาที่ดีพออาจจะส่งผลต่อการพัฒนาการของเด็กๆ นะคะ

เรามาพูดถึงโรคที่มักเกิดใน "วัยทารกแรกเกิด" กันก่อนนะคะ

1. โรคธาลัสซีเมีย หรือ โลหิตจาง

เป็นโรคที่สามารถถ่ายทอดจากพ่อแม่มาสู่ลูกได้ หากเกิดกับทารก อาการอาจจะรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตตั้งแต่ภายในครรภ์หรือพึ่งคลอดได้เพียง 1-2 ชั่วโมง ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักจะมีอาการเพียงเล็กน้อย เมื่อมีไข้จะตัวซีดลง สามารถสังเเกตอาการได้ตั้งแต่อายุ 2-3 เดือนแรกเลยค่ะ และถ้ามีอาการรุนแรงมาก ร่างกายจะอ่อนเพลีย ตาจะเหลือง ตับและม้ามโต กระดูกส่วนใบหน้าเปลี่ยนรูป หากมีอาการดังนี้ จำเป็นต้องรีบปรึกษาแพทย์และเข้ารับการรักษาที่เหมาะสมนะคะ

2. ดาวน์ซินโดรม

เป็นโรคทางพันธุกรรมที่เกิดจากความผิดปกติของโครโมโซม ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยในภาวะปัญญาอ่อน ลักษณะทางกายภาพของเด็กดาวน์ซินโดรมก็จะมี ศีรษะค่อนข้างเล็ก แบน ดั้งจมูกแบน ตาเฉียงขึ้น ปากเล็ก ตัวเล็ก ซึ่งอาจเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด หรือโรคลำไส้อุดตันตั้งแต่แรกเกิด จะเกิดขึ้นโดยเฉพาะคุณแม่ที่ตั้งครรภ์วัย 35 ขึ้นไปค่ะ สามารถป้องกันได้โดยการตรวจหาความผิดปกติของทารกในครรภ์ได้ตั้งแต่อายุครรภ์ยังน้อยๆ คือ ได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 10 สัปดาห์ (ประมาณ 2 เดือนครึ่ง) นะคะ

3. โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด

โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดแบ่งได้ออกเป็น 2 ชนิดค่ะ คือ

ภาวะตัวเขียว

เป็นอาการที่เกิดจากเลือดดำไหลเข้าสู่เส้นเลือดแดงที่ส่งไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ทำให้เด็กมีลักษณะผิวหนัง หรือกล้ามเนื้อเขียวคล้ำ มักพบอาการเขียวที่เด่นชัดในบริเวณปลายมือ ปลายเท้า ริมฝีปาก และใบหน้า

ไม่มีภาวะตัวเขียว

เป็นอาการที่เกิดจากร่างกายได้รับออกซิเจนที่ส่งมากับเลือดไม่เพียงพอ และหัวใจมีการสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ได้น้อยลง ในวัยทารกจะมีอาการเหนื่อยง่ายขณะดูดนม เมื่อเด็กโตขึ้นจะมีอาการเหนื่อยง่ายเมื่อทำกิจกรรมหรือออกแรงทำสิ่งใดๆ หากมีการทำกิจกรรมที่หนักอย่างต่อเนื่องอาจทำให้ร่างกาย และสมองขาดออกซิเจน เป็นลมหมดสติได้ง่าย

อาการที่พบก็จะมี หายใจแรงและเร็ว ริมฝีปากเขียว หน้าอกบุ๋ม ซี่โครงบาน เหนื่อยง่าย ตัวเย็น ตัวซีดเฉียบพลัน

หากสังเกตว่ามีอาการดังที่กล่าวมาแล้ว ควรปรึกษากุมารแพทย์เฉพาะทางโรคหัวใจ โดยกุมารแพทย์โรคหัวใจจะพิจารณาการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม เช่น การตรวจคลื่นหัวใจ เอกซเรย์หัวใจ คลื่นเสียงความถี่สูงหัวใจ และการสวนหัวใจ เพื่อให้ได้การวินิจฉัยที่แน่นอนค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง
ของเล่น: เลือกให้ลูกอย่างไรดี
ของเล่น: เลือกให้ลูกอย่างไรดี
02 สิงหาคม 2022 09:14
ของเล่นเด็ก ของเจ้าตัวน้อยไม่ใช่แค่การเล่นเฉยๆ เท่านั้น แต่ควรจะมาคู่กับการเสริมสร้างพัฒนาการให้เจ้าตัวน้อย คุณพ่อคุณแม่มือใหม่คงสงสัยกันแล้วว่าจะเลือ
7 ผลไม้กระตุ้นน้ำนมแม่ แถมช่วยบำรุงคุณแม่หลังคลอด
7 ผลไม้กระตุ้นน้ำนมแม่ แถมช่วยบำรุงคุณแม่หลังคลอด
27 กรกฎาคม 2022 06:48
องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้แนะนำให้คุณแม่ให้นมแม่อย่างเดียว (Exclusive breastfeeding) เป็นระยะเวลา 6 เดือน หรือ 180 วัน นับจากวันหลังคลอดลูก เพราะในน้ำ
โรคมือเท้าปาก: หน้าฝนต้องระวังลูกน้อย
โรคมือเท้าปาก: หน้าฝนต้องระวังลูกน้อย
26 กรกฎาคม 2022 05:18
โรคมือ เท้า ปาก มักพบได้บ่อยในทารก และเด็กเล็ก มักจะมาพร้อม โรคหน้าฝน อื่นๆ ซึ่งทำให้เด็กที่ป่วยมีอาการเป็นไข้ เป็นแผลในปาก มีตุ่มน้ำใสตามฝ่ามือ ฝ่าเท
โรคท้องร่วงและอาหารเป็นพิษในเด็ก เป็นเรื่องใกล้ตัว
โรคท้องร่วงและอาหารเป็นพิษในเด็ก เป็นเรื่องใกล้ตัว
01 สิงหาคม 2022 07:30
หน้าร้อนแบบนี้ต้องระวัง! เมื่อใกล้เข้าสู่ช่วงเดือนเมษายน มักจะเป็นเดือนที่มีอากาศร้อนที่สุดในรอบปี ซึ้งอาจทำให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดี คุณพ่อคุ