mombieclub
mombieclub
@mombieclub

สีน้ำมูกลูก บอกโรคได้นะแม่!!

สัน้ำมูกลูกบอกโรคได่
สัน้ำมูกลูกบอกโรคได่

สีน้ำมูกลูกบอกโรคได้นะแม่!!

ในช่วงฤดูฝนเริ่มมีอากาศเย็นลง และเมื่อลูกน้อยของเรามีน้ำมูก คุณพ่อคุณแม่อาจจะคิดว่าแค่หยิบทิชชู่มาสั่งก็จบแล้ว จึงไม่ได้ใส่ใจอะไรเป็นพิเศษ จริงๆ แล้วสีน้ำมูกหรือเสมหะ สามารถบอกได้ว่าลูกน้อยมีโรคแฝงหรือมีปัญหาอะไรที่เกี่ยวกับจมูกซ่อนอยู่ค่ะ

น้ำมูกมาจากไหน?

น้ำมูกมาจากต่อมสร้างน้ำมูก ที่เยื่อบุทางเดินหายใจและทางเดินอาหาร เป็นสารคัดหลั่งเพื่อกำจัดสิ่งแปลกปลอมออกจากร่างกายที่รับเข้ามาจากการสูดอากาศภายนอกเมื่อเราหายใจ หากมีการติดชื้อก็ทำให้น้ำมูกผลิตออกมามากกว่าปกติ

น้ำมูกสีใส

น้ำมูกสีใส มักเกิดจากหวัด เยื่อบุจมูกอักเสบ หรือการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ อาจเกิดจากโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ ซึ่งไวรัสจะมากระตุ้นทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุจมูก จึงทำให้มีน้ำมูกใสๆ ไหลออกมาจากจมูก หรือไหลลงคอได้ สามารถบรรเทาอาการได้ด้วยการล้างจมูกโดยใช้น้ำเกลือค่ะ

 น้ำมูกสีขาวขุ่น

น้ำมูกสีขาวขุ่น มีลักษณะเหนียว คือสัญญาณของโรคภูมิแพ้เรื้อรัง อาจเกิดจากเยื่อบุจมูกบวม ซึ่งน้ำมูกถูกขังอยู่ในโพรงจมูกเป็นระยะเวลานาน และยังรวมถึงการที่ให้ลูกน้อยทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของนมมากเกินไป ซึ่งก็สามารถทำให้น้ำมูกที่ออกมามีสีขาวขุ่นได้เช่นกันค่ะ เพราะไขมันในนมทำให้น้ำมูกสูญเสียความชุ่มชื้น น้ำมูกหรือเสมหะจึงมีลักษณะหนา เหนียว และมีสีขาวขุ่นได้ค่ะ

น้ำมูกสีเหลือง

น้ำมูกสีเหลือง เป็นสัญญาณของการติดเชื้อแบคทีเรียในโพรงจมูกหรือไซนัส ซึ่งเมื่อระบบภูมิคุ้มกันร่างกายทำปฏิกิริยาต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย เซลล์เม็ดเลือดขาว และเชื้อแบคทีเรียที่ตายแล้ว จะรวมตัวกันจนกลายเป็นน้ำมูกสีเหลือง หรือในกรณีที่น้ำมูกค้างอยู่ในโพรงจมูกเป็นเวลานานก็ทำให้เกิดน้ำมูกสีเหลืองได้โดยไม่มีการติดเชื้อแบคทีเรียได้เช่นกัน โดยน้ำมูกจะมีสีเหลืองเฉพาะช่วงตื่นนอนตอนเช้าเท่านั้นค่ะ

น้ำมูกสีเขียว

น้ำมูกสีเขียว แสดงถึงระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายที่กำลังทำงานต่อต้านเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียภายในโพรงจมูกหรือโพรงไซนัสอักเสบ บริเวณโพรงจมูกจะบวมขึ้น ทำให้น้ำมูกติดอยู่ภายในจมูกและเกิดการสะสมของแบคทีเรียและเชื้อรา หากเป็นเรื้อรังนานเกิน 1 อาทิตย์หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น มีไข้ ปวดหัว ไอแบบมีเสมหะ และปวดบริเวณจมูก ควรรีบไปพบแพทย์นะคะ

น้ำมูกสีแดงหรือมีเลือดปนอยู่

น้ำมูกสีแดง มักเกิดจากเส้นเลือดฝอยในโพรงจมูกแตก ทำให้มีเลือดปนออกมากับน้ำมูก เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น อากาศที่แห้งเกินไป การระคายเคืองหรือบาดเจ็บบริเวณจมูก การอักเสบในโพรงจมูก เนื้องอก โรคหลอดเลือดชนิดต่างๆ รวมทั้งมีสิ่งแปลกปลอมเข้าจมูกโดยมักเกิดกับเด็กเล็กวัยกำลังซนที่มักจะนำสิ่งของชิ้นเล็กๆ เข้าจมูก ทำให้มีการแตกของเส้นเลือดได้ง่าย แต่ถ้ามีเลือดออกเป็นจำนวนมาก เป็นติดต่อกันหลายวัน หรือมีน้ำมูกสีแดงออกจากจมูกเพียงข้างใดข้างหนึ่ง ควรรีบไปพบแพทย์ค่ะ

น้ำมูกสีเทา

น้ำมูกสีเทา อาจบอกว่าในจมูกของคุณมีริดสีดวงจมูก (nasal polyp) แต่ว่าริดสีดวงจมูกไม่ใช่เนื้องอกร้าย (มะเร็ง) นะคะ เพียงแต่เกิดจากการอักเสบเรื้อรังของเยื่อบุจมูก ลักษณะบวมเป็นก้อนเหมือนหยดน้ำหรือเมล็ดองุ่นอยู่ในโพรงจมูกหรือโพรงไซนัส โดยมีสาเหตุมาจากโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ โรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง โรคหืด หรือภาวะแพ้ยาแอสไพริน นอกจากนี้โรคไซนัสอักเสบจากเชื้อราก็สามารถทำให้น้ำมูกหรือเสมหะมีสีเทาได้ เช่นกัน มักมีสาเหตุมาจากเยื่อบุจมูกมีการบาดเจ็บเรื้อรังหรือภูมิต้านทานของร่างกายลดลง ทำให้ผู้ป่วยหายใจลำบาก มีปัญหาในการดมกลิ่น หรือเกิดการติดเชื้อได้ง่าย

อ้างอิง : คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โรงพยาบาลเวชธานี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

บทความที่เกี่ยวข้อง
ลูกติดจอนาน เสี่ยงกระจกตาอักเสบ จริงไหม ?
ลูกติดจอนาน เสี่ยงกระจกตาอักเสบ จริงไหม ?
16 สิงหาคม 2023 03:23
จริง ใช่ว่าการใช้จอคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ต่อเวลานานอาจเสี่ยงต่อปัญหาต่างๆ เช่น กระจกตาอักเสบ อาการเหนื่อยตา และอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพตาได้ โดยเฉพาะเมื่อใช้จอในระยะเวลานานๆ
ลูกดูดนมแบบไหน คือการเข้าเต้าที่ถูกต้อง?
ลูกดูดนมแบบไหน คือการเข้าเต้าที่ถูกต้อง?
09 สิงหาคม 2023 10:19
หลายคนอาจจะเคยได้ยินว่าการดูดนมแม่ไม่เกี่ยวกับหัวนมแม่ แต่ว่าการดูดนมแม่ที่ถูกต้องเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับลูก เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการดืมนมแม่ จึงต้องมีวิธีดูดนมที่ถูกต้อง
ดูดนิ้ว: ทำไมลูกน้อยถึงชอบกันนะ?
ดูดนิ้ว: ทำไมลูกน้อยถึงชอบกันนะ?
07 มิถุนายน 2022 03:46
คุณพ่อคุณแม่หลายๆ ท่านคงจะต้องกังวลกันบ้างใช่ไหมคะ ว่าทำไมเจ้าตัวเล็กของเราจะต้องดูดนิ้วมือตัวเองด้วย และยิ่งไปกว่านั้นในยุคนี้การที่เจ้าตัวเล็กนำนิ้ว
ฝึกพูด: ฝึกลูกพูดอย่างไร ให้มีพัฒนาการสมวัย
ฝึกพูด: ฝึกลูกพูดอย่างไร ให้มีพัฒนาการสมวัย
14 มิถุนายน 2022 04:14
ลูกน้อยในช่วง 1-12 เดือน จะมีพัฒนาการที่แตกต่างกันออกไป ในช่วง 3-6 เดือน จะสามารถทำเสียงอ้อแอ้ (Babbling) เมื่อมีความพึงพอใจหรือไม่พอใจได้ ช่วง 6-9 เด