mombieclub
mombieclub
@mombieclub

กินไข่: ลูกกินไข่ทุกวันจะเป็นอะไรหรือเปล่า?

กินไข่
กินไข่

บางครั้งเด็กอาจเบื่ออาหาร หรือทานได้น้อย คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่รู็ว่าจะหาเมนูใหม่ๆ อะไรให้ลูกกินแล้วไม่เบื่อดี หลายทีก็จบลงด้วยเมนูอาหารยอดฮิตที่มีติดทุกบ้านอย่าง "ไข่" มาเป็นส่วนประกอบในเมนู ทั้งไข่เจียว ไข่ดาว ไข่ต้ม และไข่อื่นๆ จนบางครั้งคุณพ่อคุณแม่อาจเกิดความสงสัยว่าการที่ให้ลูกกินไข่ทุกวันๆ จะเป็นอันตรายไหม แล้วลูกเราควรกินไข่แค่ไหนถึงจะพอดีกันล่ะ

ลูกกินไข่บ่อยเกินไปหรือเปล่า?

ไข่ นั้นอุดมไปด้วยโปรตีน และไขมันที่ดีต่อสุขภาพ รวมถึงมีสารอาหาร แร่ธาตุและวิตามินอีกมากมาย เช่น ธาตุเหล็ก วิตามินเอ วิตามินบี 1 บี 2 บี 6 บี 12 วิตามินอี วิตามินดี แคลเซียม ฟอสฟอรัส และอื่นๆ ที่ทั้งหมดล้วนให้ประโยชน์ต่อร่างกาย และดีต่อสุขภาพสำหรับเด็กวัยกำลังโต

คุณพ่อคุณแม่อาจสงสัย หรือกังวลเกี่ยวกับปริมาณคอเลสเตอรอลในไข่ ในความเป็นจริงแล้วหากลูกคุณไม่ได้รับคอเลสเตอรอล และไขมันอิ่มตัวจากแหล่งโปรตีนอื่นๆ ในปริมาณมากจนเกินไป รวมถึงการทานอาหารที่หลากหลายในแต่ละวัน ลูกคุณจะสามารถกินไข่ได้ทุกวัน หากต้องการ

ปริมาณไข่ที่แนะนำให้เด็กบริโภคในแต่ละวัน

ทารก 6 เดือน เริ่มให้ไข่ต้มสุก 1/2 ฟอง ผสมข้าวบดในครั้งแรก ควรให้ในปริมาณที่น้อย และค่อยๆ เพิ่มขึ้นทารกอายุ 8 - 12 เดือน กินไข่ 1/2 ถึง 1 ฟองต่อวันเด็กอายุ 1 - 5 ปี เด็กวัยเรียน และเด็กวัยรุ่น กินไข่ 1 ฟองต่อวัน

คุณประโยชน์ของการ กินไข่

1. ช่วยให้เด็กเจริญเติบโต แข็งแรง สมวัย

มีการศึกษาในต่างประเทศที่แสดงให้เห็นว่าไข่มีบทบาทในการควบคุม และรักษาน้ำหนักของเด็ก พบว่าเด็กที่กินอาหารเช้าที่มีโปรตีนสูงจากไข่จะกินแคลอรี่น้อยลงในมื้อกลางวัน และความหิวโดยรวมลดลงเมื่อเด็กๆ รับประทานอาหารเช้าที่มีโปรตีนสูงจากไข่ อาหารเช้านั้นเพิ่มความสมบูรณ์ของเด็ก 32% ลดความหิว 14% และความปรารถนาที่จะกิน 30% เมื่อเทียบกับอาหารที่อุดมด้วยคาร์โบไฮเดรต ไข่ก็อาจเป็นสิ่งสำคัญต่อการควบคุมน้ำหนักให้ดีต่อสุขภาพ

2. อุดมไปด้วยสารอาหาร แร่ธาตุและวิตามิน

โปรตีน
ไข่เป็นอาหารโปรตีนที่สมบูรณ์ ไข่แต่ละฟองมีโปรตีน 6 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค โปรตีนเป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับร่างกายที่อ่อนเยาว์และจำเป็นสำหรับการสร้างเซลล์ใหม่และการสร้างเซลล์ใหม่ ไข่ช่วยให้เด็กโตขึ้นและแข็งแรงขึ้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าลูก ๆ ของคุณกินไข่วันละหนึ่งฟองและคุณไม่จำเป็นต้องให้วิตามินรวมกับเขาเลย!ลูทีนและซีแซนทีน
ไข่เป็นแหล่งอาหารที่ดี ของลูทีนและซีแซนทีน ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับดวงตาที่แข็งแรง ให้วิสัยทัศน์ที่คมชัด และลดผลกระทบการเสื่อมสภาพของเม็ดสีและเรตินาโอเมก้า 3
โอเมก้า 3 ช่วยในการพัฒนาสมองในระยะแรก ความจำ และความเฉลียวฉลาดทางปัญญา นอกจากนี้การบริโภคไข่เป็นประจำ สามารถชะลอการเกิดโรคข้ออักเสบและโรคหัวใจเมื่อเด็กโตเป็นผู้ใหญ่โคลีน
โคลีนมีหน้าที่สำคัญในการสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาสมองและสติปัญญาของเด็กกรดโฟลิก
วิตามินที่ละลายในน้ำชนิดนี้มีความสำคัญต่อการทำงานของระประสาทสำหรับเด็ก การขาดโฟเลต สามารถนำไปสู่ความอ่อนแอและความเสียหายของเส้นประสาท ดังนั้นเด็กจึงจำเป็นต้องบริโภคไข่ในปริมาณที่เหมาะสมกับกรดโฟลิกที่ร่างกายจะได้รับ
วิตามินดี
ไข่เป็นแหล่งวิตามินดีที่ดีเยี่ยม วิตามินดี มีความสำคัญต่อสุขภาพกระดูกของเด็กที่กำลังเติบโตวิตามิน B12
ไข่เป็นแหล่งวิตามิน B12 ที่ดีเยี่ยม จะดีมากถ้าได้รับวิตามินนี้ตามธรรมชาติ วิตามิน B12 เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสุขภาพของระบบประสาท วิตามินนี้เรียกอีกอย่างว่าโคบาลามิน ในยุคโควิด เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการพัฒนาสมองและระบบประสาทของลูกน้อย

3. ป้องกันโรคภูมิแพ้

การให้เด็กได้ทานไข่ทั้งฟองเนิ่นๆ ตั้งแต่ยังเล็ก สามารถลดโอกาสในการเกิดอาการแพ้ไข่ได้ เป็นสาเหตุหนึ่งที่แนวทางการให้อาหารทารกล่าสุดจาก Health Canada, Canadian Pediatric Society, Dietitians of Canada และ the Breastfeeding Committee for Canada แนะนำให้ เด็กทารกได้ทานไข่ทั้งฟองทันทีที่อายุหกเดือน หรือทันทีที่ลูกน้อยของคุณเริ่มกินไข่ทั้งฟองได้

4. น้ำตาลน้อย

เยาวชนเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่บริโภคน้ำตาลสูงที่สุด ไข่เป็นอาหารที่มีประโยชน์ ปราศจากน้ำตาล อุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหาร นอกจากนี้ยังสามารถปรุงด้วยวิธีอร่อยๆ มากมาย ซึ่งเป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการลดการบริโภคน้ำตาล

5. ไข่ช่วยให้ผมและเล็บแข็งแรง

ไข่มีกรดอะมิโนที่จำเป็น 9 ชนิด ซึ่งช่วยในการเจริญเติบโตของเล็บ และผมสำหรับเด็ก

6. มีปริมาณไขมันที่สมดุล

ไข่ มีความสมดุลของไขมันอิ่มตัวและไม่อิ่มตัว ดังนั้นจึงเป็นอาหารว่างที่ดีเยี่ยมสำหรับการเจริญเติบโตของร่างกาย ดังนั้นเราจึงสามารถให้อาหารจากไข่แก่เด็กๆ ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องโรคอ้วน ลองทำไข่ลวกหรือไข่ต้ม แทนการทอดได้ก็จะยิ่งดี

ทำอาหารจากไข่สำหรับเด็กอย่างไร? ให้ปลอดภัย

ความปลอดภัยในการปรุงอาหาร และการเก็บไข่ การเก็บรักษานั้นควรแช่ไข่ในตู้เย็นที่ช่องปกติการปรุงอาหารด้วยไข่ ต้องคำนึงถึงความสุกของไข่เป็นสำคัญ ไข่แดงควรสุกพอประมาณ และไข่ขาวควรสุกอย่างทั่วถึงควรเลี่ยงการให้เด็กกินไข่ดิบ เพราะในไข่ดิบ อาจปนเปื้อนไปด้วยเชื้อจุลินทรีย์ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของเด็กได้ และไข่ขาวที่ไม่ผ่านการปรุงอาหารให้สุกเพียงพอ สามารถขัดขวางการดูดซึม ไบโอติน ซึ่งเป็นวิตามินบีชนิดหนึ่งในลำไส้ ที่ช่วยบำรุงผมและเล็บของเด็กให้แข็งแรง ทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมวิตามินบีชนิดนี้ไปใช้ประโยชน์ได้

การให้เด็กกินเมนูไข่ที่มีไขมันน้อย เช่น ไข่ตุ๋น หรือไข่ต้ม จะมีปริมาณไขมันน้อยกว่าไข่ดาว หรือไข่เจียว คุณพ่อคุณแม่ยังสามารถเพิ่มแคลเซียมลงในไข่คน และไข่เจียวโดยผสมนมหรือชีสลงไป และยังสามารถใส่ผักเพิ่มเข้าไปเพื่อเพิ่มปริมาณไฟเบอร์ และปริมาณวิตามินได้อีกด้วย

การดูแลโภชนาการของลูกให้เหมาะสมในแต่ละช่วงวัยถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เด็กเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์และฉลาดสมวัย และการปลูกฝังเรื่องโภชนาการที่ครบถ้วนเป็นประโยชน์ต่อร่างกายซึ่งจะช่วยให้เด็กๆ สร้างนิสัยการกินที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ ช่วยเสริมสร้างทักษะความฉลาดที่รอบด้านด้วยค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง
ไข้หวัดมะเขือเทศ: คืออะไร มีอาการอย่างไร?
ไข้หวัดมะเขือเทศ: คืออะไร มีอาการอย่างไร?
30 พฤศจิกายน 2022 05:09
ไข้หวัดมะเขือเทศ เป็นโรคที่มาจากเชื้อไวรัสคอกซากี A16 (Coxsakie A16) หรือที่หลายคนทราบกันดีว่าเป็นเชื้อไวรัสตัวเดียวกันกับที่ทำให้เกิดโรคมือ เท้า ปาก
เคล็ดลับ! "เสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย" รับมืออากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย
เคล็ดลับ! "เสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย" รับมืออากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย
14 ตุลาคม 2022 02:55
อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยเกินไปแล้วใช่ไหมคะแม่ๆ ฤดูฝนแบบนี้อากาศจะเย็นและชื้นขึ้นเป็นเรื่องปกติ ซึ่งอากาศแบบนี้จะทำให้ลูกน้อยของเราเป็นไข้หวัดได้ง่ายกว่าปก
พัฒนาการ: ลูกน้อยวัย 3 ขวบ
พัฒนาการ: ลูกน้อยวัย 3 ขวบ
08 ตุลาคม 2022 02:27
เพราะลูกน้อยวัย 3 ขวบเป็นวัยกำลังเรียนรู้ พูดตาม ทำตาม เหล่าคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลาย ควรคอยสังเกตลูกน้อยถึงการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ทั้งร่างกาย ทั้งคำพูด
How to สอนลูกให้เริ่มแต่งตัวด้วยตัวเองอย่างไรดี
How to สอนลูกให้เริ่มแต่งตัวด้วยตัวเองอย่างไรดี
11 ตุลาคม 2022 03:34
เมื่อเด็กๆเริ่มโตขึ้น คุณพ่อคุณแม่ควรเริ่มที่จะฝึกเขาให้ช่วยเหลือตนเองได้ โดยเฉพาะการใช้ชีวิตประจำวันที่เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเมื่อถึงวัยที่ลูกต้องเข้า