พ่อๆๆแม่ๆๆมีวิธีการสอนลูกๆๆในการบริหารเงิน
และรู้จักประหยัดเงิน (วัย6 ขวบ )แบบดูไม่ตลาดแคลน
-ลูกอยากได้ของเล่นราคาแพง เราควรพูดหรือสอนแบบไหน
(เหมือนบ้างครั้งไม่ได้อยากได้จริงๆๆแต่ของให้ได้ไว้ก่อน )
-ลูกอยากได้ทุกอย่างโดยไม่รู้ว่าจำเป็น มีประโยชน์ไหม
((ของเล่นเต็มบ้าน แต่น้องเล่นแบบไม่ถนอม )
-ลูกจะซื้อของฝากทุกคน เพื่อน หลานๆๆ ยาย ย่า ปู่ ทุกครั้ง ที่ไปเดินห้าง
( บางครั้งซื้อหลายคนแม่ก็ กระเป๋าแบน )
ฝากพ่อๆๆแม่ๆๆแนะนำ หน่อยค่ะ
และรู้จักประหยัดเงิน (วัย6 ขวบ )แบบดูไม่ตลาดแคลน
-ลูกอยากได้ของเล่นราคาแพง เราควรพูดหรือสอนแบบไหน
(เหมือนบ้างครั้งไม่ได้อยากได้จริงๆๆแต่ของให้ได้ไว้ก่อน )
-ลูกอยากได้ทุกอย่างโดยไม่รู้ว่าจำเป็น มีประโยชน์ไหม
((ของเล่นเต็มบ้าน แต่น้องเล่นแบบไม่ถนอม )
-ลูกจะซื้อของฝากทุกคน เพื่อน หลานๆๆ ยาย ย่า ปู่ ทุกครั้ง ที่ไปเดินห้าง
( บางครั้งซื้อหลายคนแม่ก็ กระเป๋าแบน )
ฝากพ่อๆๆแม่ๆๆแนะนำ หน่อยค่ะ
-เด็กจะอยากได้ทุกอย่างที่เขาสนใจ ชอบ สนุกในการหยิบ ทุกครั้งก่อนจะออกจากบ้าน ตกลงกันว่าซื้ออะไรได้แค่ไหน งบเท่าไร หรือ กี่ชิ้น ข้อนี้สำคัญ ไม่ใจอ่อนนะคะ เมื่อเขาหยิบมาแล้วให้เขาเลือกชิ้นที่อยากได้ที่สุดค่ะ บ้านนี้ทำแบบนี้มาตั้งแต่2ขวบค่ะ ตอนนี้9ขวบแล้ว ไม่มีดิ้นไม่มีร้อง ไม่เคยต้องหิ้วปีกกลับบ้าน ถ้าพูดไม่รู้เรื่อง แม่มองตาก็เงียบค่ะ ตอนนี้อยากได้อะไรก็พยายามหางานค่ะ เช่น รับจ้างถอนหงอกแม่เส้นละ 2 บาท ทิ้งอึแมว 20 บาทอะไรทำนองแต่ทั้งนี้งานบ้านไม่ใช่อาชีพไม่ใช่งานที่ต้องได้เงินอันนี้แยกไปอีกประเด็นนะคะ ลูกจะมีวิธีคิดของเขาอีกที เราต้องค่อยๆบ่มเพาะเอาค่ะ
- เมื่อลูกได้ทุกอย่างง่ายดาย เขามักจะไม่เห็นคุณค่า มันเป็นห่วงโซ่ ถ้าวาดเป็นแผนผังก็จะเห็นได้ชัดค่ะ อยากให้เห็นคุณค่าของ ก็ต้องป้อนข้อมูลใหม่ค่ะ พังไม่ซื้อใหม่ ไม่มีให้เล่น วางข้อตกลงในชิ้นใหม่ จะซื้อได้อีกเมื่อไร และอย่างไร
- การนึกถึงคนอื่นเป็นเรื่องที่ดี มีน้ำใจ แต่ลูกยังไม่ซับซ้อน เราก็ค่อยๆบอกค่ะ ว่าเราซื้อฝากได้แค่นี้นะคะ (ขนมสักห่อใหญ่ๆที่ราคาไม่สูงแต่เผื่อแผ่ได้ครบทุกคน) เราซื้อทุกอย่างที่อยากได้ไม่ได้ พ่อแม่มีงบเท่านี้นะลูก ทุกอย่างต้องใช้เวลาค่ะ ค่อยๆเรียนรู้กันไปนะคะ
ลูก6ขวบครึ่งเหมือนกัน ของเล่นต่อชิ้นที่ราคาแพงที่สุดคือเบบี้ทรี เราซื้อให้ทั้งหมด 4 ตัว เป็นใบหน้าที่ลูกอยากได้ที่สุด แล้วแม่ให้เกี่ยวก้อยสัญญาว่าตัวนี้จะเป็นตัวสุดท้ายแล้ว (ทั้งหมด4ตัวจะมีที่มาค่ะ ทั้งทำงานแลกบ้าง ได้คะแนนเต็ม100บ้าง เทศกาลบ้าง) หลังจากนั้นยังมีตาน้ำออกมาอีก ลูกเริ่มออดอ้อน แต่เรายืนยันคำเดิม ว่า4ตัวแม่ให้แค่นี้ ไม่มีการซื้อให้เพิ่มแล้วเราสัญญากันแล้ว
ในส่วนของ ของเล่น เวลาลูกขอ เราจะมองว่าคล้ายกับของที่บ้านมีอยู่ไหม ถ้าคล้ายก็จะบอกว่าไม่ได้ค่ะแบบนี้ที่บ้านก็มีหนูก็ไม่เห็นเล่น จนลูกรู้ว่าถ้าขอของเล่นโอกาสที่แม่จะให้คือยาก เพราะน้องมีของเล่นเยอะมาก เล่นแปปๆก็เบื่อ เราเลยไม่ซื้ออะไรให้เพิ่มแล้วค่ะ
ยกเว้นพวกหนังสือ หรืองานวาดเขียนอยากได้อันไหน โอกาสผ่านมีสูงค่ะ แม่สนับสนุน
กรณีลูกซื้อให้คนอื่น เราไม่ให้ผ่านค่ะ ยกเว้นเป็นวันเกิดของคนๆนั้นถึงให้ผ่าน บอกลูกไปตรงๆว่าแม่เงินไม่พอจะซื้อให้ทุกคนหรอกนะ ยกเว้นว่าหนูจะเก็บเงินซื้อเอง หรือทำขึ้นมาเองถึงให้คนอื่นได้ ลูกบ้านนี้จะใช้วิธีการประดิษฐ์กล่องสุ่ม ถุงสุ่ม หรือสกุชชี่ไปให้เพื่อนแทนค่ะ
การนึกถึงคนอื่นเป็นเรื่องดีนะคะ น้องเป็นเด็กมีน้ำใจเอื้อเฟื้อ แค่สอนว่าเรามีงบแค่นี้ ซื้อฝากได้แต่ต้องไม่เบียดเบียนคนอื่นและตัวเอง
ลูกเรา 6ขวบ ไปห้างก็จะไปหยิบๆจับๆของเล่นแต่ไม่เคยขอซื้อค่ะ บางครั้งเค้าก็บอกแพงไป ไม่จำเป็น เค้าจะเข้าใจเราพอสมควร คืออะไรที่จำเป็น หรือโอกาสอันสมควร เรื่องราคาเราไม่เคยเกี่ยง แต่ถ้าไม่จำเป็นเค้าจะรู้เลยว่ายังไงแม่ก็ไม่ซื้อ เพราะตัวเราเองกว่าจะซื้ออะไรแต่ละทีต้องคุ้มค่าจริงๆ เปรียบเทียบราคา อ่านรีวิว เค้าเลยชินกับการเห็นแม่ใช้เงินแบบคิดถี่ถ้วน แต๊ะเอียที่คุณตาคุณยาย คุณป้าๆให้มา เค้าก็จะเอาออกมาใช้บ้าง แต่ส่วนใหญ่จะไม่ใช้ค่ะ ถ้าให้แนะนำก็คือคุณแม่หนักแน่น อธิบายน้องไปตรงๆค่ะ เค้าจะซึมซับการใช้เงิน การบริหารจัดการจากพ่อแม่ด้วยส่วนหนึ่งค่ะ