mombieclub
mombieclub
@mombieclub

ลูกไม่ไปโรงเรียน ผิดปกติหรือไม่! ควรรับมืออย่างไรดี?

ลูกไม่ไปโรงเรียน ผิดปกติหรือไม่! ควรรับมืออย่างไรดี?
ลูกไม่ไปโรงเรียน ผิดปกติหรือไม่! ควรรับมืออย่างไรดี?

หลายๆ ครั้งที่ลูกน้อยรู้สึกงอแงไม่อยากไปโรงเรียน ซึ่งปัญหาอาจเกิดได้หลายๆ สาเหตุด้วยกันค่ะ แต่ปัจจัยโดยทั่วไปอาจมีสาเหตุมาจาก การย้ายไปโรงเรียนแห่งใหม่ หรือโรงเรียนปิดเทอมเป็นเวลานาน แล้วมีการเริ่มการศึกษาใหม่ ความเจ็บป่วย หรือสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก

สาเหตุอาจเกี่ยวข้องกับโรงเรียน หรือที่บ้าน หรืออาจเกิดจากปัจจัยของตัวเด็ก

1. สาเหตุที่เกิดจากโรงเรียน

โดนครูดุ หรือขู่ โดนเพื่อนว่า โดนเพื่อนแกล้งหรือหัวเราะเยาะ หรืออาจกลัวสถานที่ เช่น เพื่อนบอกว่าตรงนั้นตรงนี้มีผี มีแมงมุม

2. สาเหตุที่เกิดจากครอบครัว

พ่อแม่ทะเลาะกัน หรือมีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นที่บ้าน ทำให้ลูกเกิดความวิตกกังวล เช่น กลัวพ่อแม่เลิกกัน กลัวพ่อแม่ทะเลาะกัน กลัวพ่อแม่หายไป หรือในกรณีที่พ่อแม่เลี้ยงลูกแบบใกล้ชิดเกินไป ลูกอาจไม่อยากห่างพ่อแม่ จึงไม่อยากไปโรงเรียนได้ค่ะ

3. สาเหตุที่เกิดจากตัวเด็กเอง

ลูกนอนไม่เต็มอิ่มแล้วถูกปลุกขึ้นมาเพื่อเตรียมตัวไปโรงเรียน ทำให้รู้สึกหงุดหงิด และรู้สึกโดนบังคับ

คุณพ่อ คุณแม่ หรือผู้ปกครองอาจสงสัยว่าพฤติกรรมเหล่านี้ของลูกนั้นผิดปกติหรือไม่? แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกไม่อยากไปโรงเรียนเป็นแค่เรื่องธรรมดาทั่วไปของเด็ก หรือเป็นเรื่องที่ร้ายแรงกว่านั้น อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความผิดปกติที่เกิดกับลูกน้อย

สังเกตอาการผิดปกติที่ทำให้ลูกไม่อยากไปโรงเรียน

1. สังเกตอารมณ์ของลูก

หงุดหงิดง่าย อาละวาดมากขึ้น ร้องไห้บ่อย หวาดกลัว ขี้กังวลกับสิ่งต่างๆ มากจนผิดปกติ

2. สังเกตร่างกายของลูก

มีรอยฟกช้ำ รอยเล็บ แผลต่างๆ บนร่างกายหรือไม่ เรื่องความสะอาดของเสื้อผ้าว่ามีส่วนที่เลอะหรือเปรอะเปื้อนหรือไม่

3. สังเกตพฤติกรรมของลูก

ก้าวร้าวมากผิดปกติ เล่นรุนแรงซ้ำๆ ฝันร้ายบ่อย ซ่อนของใช้ที่ต้องนำไปโรงเรียน มีอาการเจ็บปวด เช่น ปวดท้อง ปวดหัว โดยหาสาเหตุไม่ได้ ไม่กระตือรือร้น พูดคุยหรือเล่นน้อยลง

4. สังเกตพัฒนาการของลูก

มีภาวะถดถอย อั้นปัสสาวะ อุจจาระไม่ได้ ทั้งที่เคยทำได้มาก่อน เคยเขียนอ่านได้ก็ไม่ทำหรือทำได้น้อยลง การนอนเปลี่ยนแปลงไป การทานอาหารผิดปกติ

วิธีป้องกัน และช่วยเหลือหากลูกน้อยไม่ยอมไปโรงเรียน

  1. คุณพ่อ คุณแม่ หรือผู้ปกครองจะต้องสังเกตอาการ และความผิดปกติต่างๆ ของลูกให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรก
  2. ลดความกังวลของคุณพ่อ คุณแม่ หรือผู้ปกครองลง แล้วลองพูดคุยสอบถามกับลูก อาจลองใช้7 คำถาม ที่ควรถามลูกหลังกลับจากโรงเรียน
  3. นึกถึงสาเหตุที่อาจเป็นไปได้ หรือเหตการณ์ที่อาจเกิดกับลูกได้
  4. ขอความช่วยเหลือจากคุณครู วางแผนเพื่อช่วยเหลือร่วมกัน
Related Articles
 อารมณ์ของคุณแม่ที่คุณพ่อควรรับมืออย่างใจเย็น
อารมณ์ของคุณแม่ที่คุณพ่อควรรับมืออย่างใจเย็น
22 กรกฎาคม 2022 04:23
ในช่วงที่คุณแม่ตั้งครรภ์นั้น ร่างกายของคุณแม่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งรูปร่างและสภาวะอารมณ์ เนื่องจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนไปเพื่อรองรับการมีบุตร สภาวะอารมณ
กฎหมายคาร์ซีท สำคัญกับเด็กและพ่อแม่อย่างไร?
กฎหมายคาร์ซีท สำคัญกับเด็กและพ่อแม่อย่างไร?
25 กรกฎาคม 2022 03:26
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2565 เว็ปไซต์ราชกิจจานุเบกษา ประกาศ พระราชบัญญัติ จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 ว่าด้วยการบังคับใช้คาร์ซีทสำหรับเด็กที่อายุน
สอนแปรงฟันอย่างไรดี ไม่ให้ลูกเสียน้ำตา!
สอนแปรงฟันอย่างไรดี ไม่ให้ลูกเสียน้ำตา!
18 กรกฎาคม 2022 02:39
หลายๆ บ้านคงเจอปัญหานี้กันไม่มากก็น้อยใช่ไหมคะ เพราะลูกน้อยของเรานั้นไม่ชอบแปรงฟันหรือไม่ยอมให้แปรงฟันเลย เพียงแค่เห็นแปรงก็ทำหน้าบึ้งเตรียมตัวจะร้องไ
เลือกพี่เลี้ยงเด็กอย่างไรให้วางใจได้
เลือกพี่เลี้ยงเด็กอย่างไรให้วางใจได้
21 กรกฎาคม 2022 02:33
พี่เลี้ยงเด็ก เป็นหนึ่งในผู้ช่วยสำคัญที่จะช่วยดูแลลูกน้อยของเราในเวลาที่เรานั้นไม่มีเวลาดูแลลูกเอง การเลือกพี่เลี้ยงเด็กนั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เ
 อาหารบำรุงครรภ์ (สำหรับคุณแม่มือใหม่)
อาหารบำรุงครรภ์ (สำหรับคุณแม่มือใหม่)
18 กรกฎาคม 2022 04:54
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรใส่ใจเรื่องอาหารและให้ความสำคัญนะคะ เนื่องจากสารอาหารมีส่วนช่วยบำรุงระบบต่างๆ ภายในสมองและร่างกายของเจ้าตัวน้อยที่ยังพัฒนาได้ไม่เต็ม