ในช่วงที่คุณแม่ตั้งครรภ์นั้น ร่างกายของคุณแม่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งรูปร่างและสภาวะอารมณ์ เนื่องจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนไปเพื่อรองรับการมีบุตร สภาวะอารมณ์ดังกล่าวทำให้อารมณ์ของคุณแม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอย่างที่คุณพ่อนั้นอาจจรับมือไม่ทันเลยทีเดียว และอาจกลายเป็นปัญหาความไม่เข้าใจกันในอนาคต
แล้วคุณพ่อควรจะรับมือกับคุณแม่ที่มีอารมณ์แปรปรวนอย่างไรดีล่ะ?
1. คุณพ่อต้องยอมรับว่า ตัวเองนั้นไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการตั้งครรภ์เลย การตั้งครรภ์นั้นเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่คุณผู้ชายไม่สามารถทำความเข้าใจได้จนกว่าจะได้ประสบกับตนเอง ซึ่งคุณผู้ชายไม่สามารถตั้งครรภ์ได้เป็นเรื่องแน่นอน คุณจึงไม่มีทางที่จะเข้าใจว่ามันรู้สึกอย่างไร ดังนั้น สิ่งที่คุณพ่อต้องทำก็คือ ทำตัวเองให้ใจเย็น ทำความเข้าใจว่าคนท้องมักมีอารมณ์แปรปรวนเป็นปกติ
2. อยากกินต้องได้กิน คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่นั้นมีความต้องการสารอาหารมากขึ้น ทำให้หิวบ่อยและอยากกินนู่นนี่อยู่ตลอดเวลา ซึ่งคุณพ่อควรทำความเข้าใจอาการนี้ด้วยเช่นกัน แต่จะต้องไม่ปล่อยให้คุณแม่ทานอะไรก็ตามมากเกินไป คุณพ่อจึงต้องคอยเช็คให้แน่ใจว่าสิ่งที่ทานไปนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายบ้างหรือไม่
3. คอยอยู่เป็นเพื่อนใกล้ๆ คุณแม่ในช่วงนี้มักมีอาการวิตกเกี่ยวกับสิ่งต่างๆที่เปลี่ยนไป ทั้งสภาวะอารมณ์ รูปร่างที่เปลี่ยนไป และการวิตกไปก่อนเมื่อเป็นเรื่องของลูกน้อย ดังนั้นการที่คุณพ่อคอยอยู่ข้างๆ และพูดคุยกับคุณแม่จะทำให้รู้สึกคลายกังวลได้มากขึ้น
4. คุณพ่อต้องเป็นผู้ช่วยที่ดี เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ หลายสิ่งหลายอย่างที่เคยทำได้จะกลายเป็นเรื่องยากลำบากไปในทันที คุณพ่อควรจะเข้าไปช่วยเหลือ หรือหากทำแทนได้ก็ควรเข้าไปทำในสิ่งที่คุณแม่ทำไม่ไหว
5. ทำกิจกรรมร่วมกัน การทำกิจกรรมร่วมกันทำให้สามารถคลายความเครียดและความกังวลของคุณแม่ได้ ดังนั้นการออกไปเดินเล่น ดูหนังด้วยกัน จะช่วยลดความเครียดทั้งต่อตัวคุณพ่อและคุณแม่ซึ่งเป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่าย
อย่างไรก็ตาม การดูแลคุณแม่ตั้งครรภ์นั้นไม่มีสูตรการดูแลที่ตายตัว และอารมณ์ของคุณแม่จะแปรผกผันตามฮอร์โมนเหมือนกับรถไฟเหาะ ซึ่งบรรดาคุณพ่อต้องรับมือให้ดี มันอาจจะเหนื่อยซักหน่อยแต่นี่เป็นสิ่งที่ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ต้องเรียนรู้ไปพร้อมกันค่ะ
แล้วคุณพ่อควรจะรับมือกับคุณแม่ที่มีอารมณ์แปรปรวนอย่างไรดีล่ะ?
1. คุณพ่อต้องยอมรับว่า ตัวเองนั้นไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการตั้งครรภ์เลย การตั้งครรภ์นั้นเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่คุณผู้ชายไม่สามารถทำความเข้าใจได้จนกว่าจะได้ประสบกับตนเอง ซึ่งคุณผู้ชายไม่สามารถตั้งครรภ์ได้เป็นเรื่องแน่นอน คุณจึงไม่มีทางที่จะเข้าใจว่ามันรู้สึกอย่างไร ดังนั้น สิ่งที่คุณพ่อต้องทำก็คือ ทำตัวเองให้ใจเย็น ทำความเข้าใจว่าคนท้องมักมีอารมณ์แปรปรวนเป็นปกติ
2. อยากกินต้องได้กิน คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่นั้นมีความต้องการสารอาหารมากขึ้น ทำให้หิวบ่อยและอยากกินนู่นนี่อยู่ตลอดเวลา ซึ่งคุณพ่อควรทำความเข้าใจอาการนี้ด้วยเช่นกัน แต่จะต้องไม่ปล่อยให้คุณแม่ทานอะไรก็ตามมากเกินไป คุณพ่อจึงต้องคอยเช็คให้แน่ใจว่าสิ่งที่ทานไปนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายบ้างหรือไม่
3. คอยอยู่เป็นเพื่อนใกล้ๆ คุณแม่ในช่วงนี้มักมีอาการวิตกเกี่ยวกับสิ่งต่างๆที่เปลี่ยนไป ทั้งสภาวะอารมณ์ รูปร่างที่เปลี่ยนไป และการวิตกไปก่อนเมื่อเป็นเรื่องของลูกน้อย ดังนั้นการที่คุณพ่อคอยอยู่ข้างๆ และพูดคุยกับคุณแม่จะทำให้รู้สึกคลายกังวลได้มากขึ้น
4. คุณพ่อต้องเป็นผู้ช่วยที่ดี เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ หลายสิ่งหลายอย่างที่เคยทำได้จะกลายเป็นเรื่องยากลำบากไปในทันที คุณพ่อควรจะเข้าไปช่วยเหลือ หรือหากทำแทนได้ก็ควรเข้าไปทำในสิ่งที่คุณแม่ทำไม่ไหว
5. ทำกิจกรรมร่วมกัน การทำกิจกรรมร่วมกันทำให้สามารถคลายความเครียดและความกังวลของคุณแม่ได้ ดังนั้นการออกไปเดินเล่น ดูหนังด้วยกัน จะช่วยลดความเครียดทั้งต่อตัวคุณพ่อและคุณแม่ซึ่งเป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่าย
อย่างไรก็ตาม การดูแลคุณแม่ตั้งครรภ์นั้นไม่มีสูตรการดูแลที่ตายตัว และอารมณ์ของคุณแม่จะแปรผกผันตามฮอร์โมนเหมือนกับรถไฟเหาะ ซึ่งบรรดาคุณพ่อต้องรับมือให้ดี มันอาจจะเหนื่อยซักหน่อยแต่นี่เป็นสิ่งที่ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ต้องเรียนรู้ไปพร้อมกันค่ะ